การที่เราจะเปลี่ยนใจใครซักคนหนึ่งนั้น ถ้าไม่ใช่ mission impossible ไปเลย ก็เป็นอะไรที่ทำได้ยากมากๆ โดยเฉพาะถ้าคนที่เราอยากจะเปลี่ยนใจนั้นเขามีความเชื่อในสิ่งที่เขาเชื่อปักหลักฝังอยู่ลึกในใจของเขาอยู่ตั้งแต่ต้นแล้ว คำถามก็คือมันมี insights จากพฤติกรรมศาสตร์อะไรไหมที่ช่วยทำให้เราสามารถเปลี่ยนใจคนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ วันนี้พวกเราทีมงาน Nudge Thailand จะมาเสนออะไรที่ควรทำและอะไรที่ไม่ควรทำในการเปลี่ยนใจใครซักคนหนึ่ง 🙂 1. อย่าใช้เหตุผลของเราไปหักล้างเหตุผลของคนที่เราอยากจะเปลี่ยนใจ คนเราส่วนใหญ่มักจะคิดกันว่า ถ้าเราสามารถเอาเหตุผล(ที่ดีกว่า)ของเราไปหักล้างเหตุผล(ที่แย่กว่า)ของคนที่คิดไม่ตรงกันกับเรา เขาจะแพ้และหันมาคิดเหมือนๆกันกับเราได้ แต่ปัญหาของวิธีการเปลี่ยนใจคนวิธีนี้ก็คือมันใช้การแทบไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่า ในขณะที่เราคิดว่าเหตุผลของเราดีกว่าเหตุผลของอีกฝ่าย อีกฝ่ายหนึ่งก็คิดว่าเหตุผลของเขาดีกว่าเหตุผลของเรา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเหตุผลของแต่ละฝ่ายต่างก็ตอบสนองวัตถุประสงค์ของตนเองด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งก็ทำให้น้ำหนักที่แต่ละฝ่ายให้ในแต่ละเหตุผลก็จะแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ของมัน อีกอย่างหนึ่ง การนำเอาเหตุผลของเราไปเสนอให้กับอีกฝ่ายหนึ่งที่คิดไม่เหมือนกับเรานั้นเป็นการการันตีที่เราจะไปปลุกเร้าอารมณ์ต่อต้านของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างแน่ๆ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าคนเราส่วนใหญ่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจด้วยกันทั้งนั้น การที่เราได้ยินอะไรซักอย่างที่ขัดต่ออารมณ์และความเชื่อของเรา ไม่ว่ามันจะเป็นข้อมูลที่ฟังดูเหตุผลยังไงก็ตามแต่ อารมณ์โกรธและเกลียดก็จะเป็นอารมณ์ที่ผุดขึ้นมาในหัวของพวกเราเป็นอันดับแรก และอารมณ์ทั้งสองอารมณ์นี่แหละที่จะทำให้เราไปขุดคุ้ยหาเหตุผลที่เข้าข้างความเชื่อที่เรามีอยู่แล้วตั้งแต่แรกมาหักล้างเหตุผลที่อีกฝ่ายจัดมา และสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือการตอบโต้กันด้วยเหตุผลที่ 1) มาจากอารมณ์ และ 2) ต่างฝ่ายต่างไม่ฟังกันและกัน และท้ายที่สุดก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจใครกันได้ 2. ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนใจใครซักคน เราก็ห้ามเริ่มต้นด้วยการดูถูกความคิดเห็นของอีกฝ่าย ในวงการจิตแพทย์ศาสตร์แล้ว พฤติกรรมที่แฝงไปด้วย contempt หรือการดูถูกคนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแปรที่สำคัญเกือบที่สุดเลยก็ว่าได้ในการอธิบายว่าคนที่แต่งงานคู่ไหนจะเลิกร้างกันไปในอนาคต ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าการดูถูกนั้นเป็นการแสดงออกถึงความไม่เคารพ ไม่ใช่แค่ความคิด แต่ความเป็นคนของอีกฝ่ายหนึ่ง และเมื่อใดก็ตามที่อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าเราไม่มีความเคารพในความคิดของพวกเขาเลย โอกาสที่เขาจะหันมาฟังในสิ่งที่เราอยากจะให้เขาฟังก็จะหมดไป 3. การบังคับให้ใครซักคนหนึ่งเปลี่ยนใจจะยิ่งทำให้เขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราอยากจะให้เขาทำ หลักการสำคัญของพฤติกรรมศาสตร์หลักการหนึ่งก็คือContinue reading “5 วิธีเปลี่ยนใจคนให้ได้ผล”
Author Archives: nudgethailand
ดูแลสุขภาพการเงินอย่างไรในยุค โควิด-19 เมื่อต้อง Work from Home รายได้หด รายจ่ายเพิ่ม
ณ เวลานี้ ชีวิตของหลายๆ คนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กันไม่มากก็น้อย หลายคนมีรายได้ลดลงและต้องใช้ชีวิตในบ้านเพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน เราลองมาสำรวจกันหน่อยว่าจะมีเทคนิคการจัดการเงินอย่างไร และหลังจากเหตุการณ์นี้เราสามารถวางแผนการเงินยามฉุกเฉินกันอย่างไร สิ่งแรกที่ต้องทำคือเริ่มจากการสำรวจค่าใช้จ่ายกันก่อน สำรวจค่าใช้จ่ายในวันที่ต้อง WFH ตัดรายจ่ายไม่จำเป็น ลดการช้อปปิ้งออนไลน์ การทำงานอยู่บ้านหรือ Work from Home นั้น ข้อดีคือมี ‘รายจ่ายบางอย่างที่หายไป’ เช่น ค่าเดินทาง ค่ากาแฟ ค่ากินเลี้ยงสังสรรค์หลังเลิกงาน และเงินที่เตรียมไว้ไปเที่ยวช่วงวันหยุด ซึ่งรายจ่ายที่หายไปเหล่านี้จะช่วยแบ่งเบาภาระไปได้บางส่วน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งก็อาจจะมี ‘รายจ่ายที่เพิ่มขึ้น’ เช่น ค่าไฟ ซึ่งหลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป เราก็จะพอรู้ว่าค่าไฟเวลาที่เราอยู่บ้านทั้งวันราคาเท่าไร และหากสูงขึ้นอย่างมากก็จะสามารถหาวิธีลดการใช้ไฟต่อไป เรื่องต่อมาที่อยากให้แยกแยะออกมาคือ ‘รายจ่ายที่เราลดได้’ เช่น ใครที่สมัครสมาชิกฟิตเนสแล้วจ่ายเป็นรายเดือนเอาไว้ก็ให้ยกเลิกไปก่อน เพราะอาจจะไม่ได้ใช้ออกกำลังกายในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน แม้จะอยู่บ้านทั้งวัน ไม่ได้ออกไปไหน แต่โรคร้ายก็ไม่อาจขวางกั้นโลกออนไลน์ที่ทำให้เราช้อปปิ้งแบบเพลินๆ โดยไม่รู้ตัว สายช้อปทั้งหลายคงต้องมีสติมากขึ้น ในช่วงเวลาที่เราเบื่อหรือเครียดจากการเสพข่าวอาจทำให้หลายคนคลายเครียดด้วยการซื้อของ ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว ช่วงเวลาที่อารมณ์ของเราไม่นิ่งเรียกว่า Hot State หรือช่วงร้อน เช่น อารมณ์อยากได้ ของมันต้องมี และต้องซื้อเดี๋ยวนี้ ฯลฯ จะเป็นช่วงที่มนุษย์จินตนาการถึงตัวเองในยามที่เย็นลงContinue reading “ดูแลสุขภาพการเงินอย่างไรในยุค โควิด-19 เมื่อต้อง Work from Home รายได้หด รายจ่ายเพิ่ม”
จูงใจหรือยัดเยียด ทำความรู้จักการใช้ Nudge วิธีสะกิดเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม
ผู้เขียนไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในลอนดอน ตอนจะจ่ายเงินพบว่าในบิลเรียกเก็บเงินมีรายการหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ ‘เงินบริจาคจำนวน 1 ปอนด์’ (ประมาณ 39 บาท) ให้กับองค์กรการกุศลที่จะนำเงินไปช่วยเด็กๆ ที่ขาดแคลนอาหาร พร้อมแนบแผ่นพับเล็กๆ แนะนำว่าองค์กรนั้นทำอะไรบ้าง การคิดเงินแบบนี้เป็นหนึ่งในวิธีการ Nudge (สะกิดให้เกิดพฤติกรรม) ที่เรียกว่า Opt-out โดยตั้งค่าอัตโนมัติไว้เลยว่าลูกค้าทุกคนจะบริจาคเงิน 1 ปอนด์ แต่ลูกค้ามีทางเลือกว่าจะ บริจาคตามที่นำเสนอมาในบิลเรียกเก็บ (1 ปอนด์) แจ้งพนักงานว่าไม่บริจาค แจ้งพนักงานว่าจะบริจาคมากกว่าที่เสนอมา (มากกว่า 1 ปอนด์) สำหรับผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับคำว่า Nudge (ถ้าคุ้นเคยดีอยู่แล้วสามารถข้ามไปย่อหน้าถัดไป) ขออนุญาตเล่าเพิ่มเติมว่า Nudge แปลว่า ‘การสะกิด’ หรือ ‘การดุน’ ซึ่งคำนี้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อหนังสือของ ริชาร์ด เธเลอร์ (เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2018) และแคส ซันชไตน์ ที่ชื่อว่า Nudge: Improving Decisions about Health, Wealth, and Happiness ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2008 และยังเป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีจนถึงปัจจุบัน พวกเขานำเสนอวิธีการเปลี่ยนพฤติกรรมแนวใหม่ที่เน้นการใช้ประโยชน์จากการทำความเข้าใจการทำงานของสมองในด้านต่างๆ (เช่นContinue reading “จูงใจหรือยัดเยียด ทำความรู้จักการใช้ Nudge วิธีสะกิดเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม”